รัฐธรรมนูญปี 2540
วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2551
วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551
เปรียบเทียบร่างรัฐธรรมนูญ 2550 กับรัฐธรรมนูญ 2540 (1)
ชุดที่ 1 มาตราเกี่ยวกับสิทธิของประชาชน
มาตรา 28 วรรค 3
ของใหม่ - สิทธิและเสรีภาพของประชานที่รัฐธรรมนูญได้รับรองและคุ้มครองเอาไว้ มีผลทันที แม้จะยังไม่มีกฎหมายลูกออกมาก็ตาม
ของเก่า - ใช้คำว่า "ทั้งนี้ ตามกฎหมายที่บัญญัติ" ทำให้มีคนตีความว่า ประชาชนจะมีสิทธิเสรีภาพก็ต่อเมื่อมีกฎหมายใช้
comment - ทางปฏิบัติคงไม่แตกต่างกัน ทุกวันนี้ประชาชนละเมิดกฎหมายพื้นๆ กันเป็นว่าเล่นอยู่แล้ว
มาตรา 30
ของใหม่ - ส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างชายหญิงมากขึ้น โดยกำหนดในบัญชีรายชื่อ สส. แบบสัดส่วน และใน พรบ. ต่างๆ เช่น พรบ. เกี่ยวกับเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ฯลฯ
ของเก่า - มีเพียงหลักการกว้างๆ
comment - เป็นมาตราที่ดี แต่ยังไม่ดีพอที่จะทำให้บ้านเรามีนายกฯ หญิงคนแรกในเร็ววัน
มาตรา 35
ของใหม่ - คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจากการหาประโยชน์โดยมิชอบ ตั้งแต่บัตรประชาชนของตาสียายสาที่ใช้ทำบัตรเครดิต ไปจนถึงภาพแอบถ่ายของตั๊กนูนโต
ของเก่า - ไม่คุ้มครอง
comment - เป็นมาตราที่ดี เหล่า Creator ที่ถูกพวก Copier ขโมยงานบ่อยๆ จะเข้าใจอย่างสุดซึ้ง
มาตรา 40
ของใหม่ - ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น .เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ได้รับสิทธิคุ้มครองในคดีเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศมากขึ้น
ของเก่า - ไม่ได้รับรองการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม
comment - หลักการดี แต่คนที่มีน้ำมันหล่อลื่นเยอะ ก็คงได้เปรียบอยู่เหมือนเดิม
มาตรา 42
ของใหม่ - คุ้มครองให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมจากการเวนคืนที่ดินมากขึ้น โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่รัฐและผู้ถูกเวนคืน จะได้รับจากการใช้สอยที่ดินที่ถูกเวนคืนนั้นๆ
ของเก่า - กำหนดให้คำนึงถึงราคาที่ซื้อขายกันตามปรกติในท้องตลาด การได้มา สภาพที่ตั้งและความเสียหายของผู้ถูกเวนคืนเท่านั้น
comment - จ่ายถูกเหมือนเดิมแหงๆ ถ้ายังไม่มีวินัยทางการเงินหรือกินหัวคิวอยู่
มาตรา 44
ของใหม่ - ประชาชนมีหลักประกันและสวัสดิภาพในการทำงาน
ของเก่า - ไม่มี
comment - มาตราที่ดี ใช้ในการตามจิกคนที่ประกอบธุรกิจ หรือจัดงานอะไรสักอย่าง แล้วหอบเงินหนี
มาตรา 45-48
ของใหม่ - คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน ทั้งการห้ามแทรกแซงและห้ามถือหุ้นเด็ดขาด
ของเก่า - ทักกี้เป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ได้
comment - นโยบายเพื่อป้องกันนักการเมืองใช้สื่อสารมวลชนในการหาเสียง หรือใช้ประโยชน์ส่วนตัว
มาตรา 49
ของใหม่ - สิทธิในการได้รับการศึกษาอย่างน้อย 12 ปี รวมทั้งผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพ
ของเก่า - สิทธิในการได้รับการศึกษาอย่างน้อย 12 ปี ไม่รวมผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพ
comment - มาตราที่ดี ถ้าโอนงบจากเด็กเกรียนที่โดดเรียนไปให้เด็กยากไร้และพิการได้ก็จะดีมากๆ
มาตรา 49 วรรค 3
ของใหม่ - ส่งเสริมการศึกษาทางเลือก การเรียนรู้ด้วยตนเอง และการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ของเก่า - ไม่มี
comment - มาตราที่ดี แต่จะทำอย่างไรให้เด็กและผู้ปกครอง (บางส่วน) ไม่ยึดติดกับคณะและสถาบัน
มาตรา 52
ของใหม่ - เด็กและเยาวชนมีสิทธิ์ได้รับการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา
ของเก่า - ไม่มี
comment - มาตราที่ดี แต่สภาพสังคมปัจจุบันทำให้เด็กเกรียนเป็นปัญหาโลกแตก แก้ไขยากขึ้นทุกที
มาตรา 52 วรรค 2
ของใหม่ - เด็ก เยาวชน สตรี และบุคคลในครอบครัว ได้รับการคุ้มครองจากความรุนแรง และสิทธิได้รับการฟื้นฟูจากผลของความรุนแรงดังกล่าว
ของเก่า - ไม่ได้คุ้มครองสตรี ไม่ได้บัญญัติถึงสิทธิได้รับการฟื้นฟู
comment - มาตราที่ดี ขอให้ปฏิบัติได้จริง ปัญหาคือเรามีบุคลากรมากพอที่จะให้การคุ้มครองหรือไม่
มาตรา 53
ของใหม่ - เพิ่มสิทธิผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ ได้รับสวัสดิการ สิ่งอำนวยความสะดวก และความช่วยเหลืออื่นๆ อย่างสมศักดิ์ศรีจากรัฐ
ของเก่า - ไม่ได้กำหนดรายละเอียดว่าจะได้รับความช่วยเหลืออย่างไร
comment - มาตราที่สอดคล้องกับแนวโน้มของโลก ซึ่งสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
มาตรา 55
ของใหม่ - ให้สิทธิแก่ผู้ไร้ที่อยู่อาศัย และไม่มีรายได้เพียงพอ ในการได้รับความช่วยเหลือจากรัฐ
ของเก่า - ไม่มี
comment - มาตราที่ดี แต่อย่าลืมแก้ไขปัญหาบ้านเอื้ออาทรถูกทิ้งใบจองด้วยก็แล้วกันครับ
มาตรา 61
ของใหม่ - กำหนดให้มีองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ที่เป็นอิสระจากรัฐ และได้รับการสนับสนุนงบจากรัฐ
ของเก่า - ไม่ได้กำหนดให้เป็นอิสระจากรัฐ และไม่ได้รับการสนับสนุนงบจากรัฐ
comment - มาตราที่ดี แต่จะได้งบจากรัฐสักเท่าไรเชียว ?
มาตรา 62
ของใหม่ - ให้ประชาชนมีสิทธิ์ติดตามและร้องขอ ให้ตรวจสอบการทำงานของข้าราชการหรือ สส.
ของเก่า - ไม่มี
comment - จะเป็นมาตราที่ดี หากประชาชนยื่นเรื่องร้องเรียนไปแล้วมีการติดตามผลจริงๆ จังๆ
มาตรา 64 วรรค 2
ของใหม่ - ข้าราชการมีสิทธิ์รวมกลุ่มเพื่อปกป้องสิทธิของตน (จากการกลั่นแกล้งของ สส. เป็นต้น)
ของเก่า - ไม่มี
comment - นโยบายสร้างความแข็งแรงแก่ข้าราชการ เป็นดาบสองคม ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของกลุ่ม ถ้าวัตถุประสงค์ของกลุ่มมีอะไรแอบแฝง อาจเกิดการแบ่งฝักฝ่ายหนักยิ่งกว่าเดิมก็เป็นได้
มาตรา 67
ของใหม่ - การทำ Public Hearing ก่อนทำเมกะโปรเจกที่มีผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสูง ชุมชนริมแม่น้ำปิง สามารถฟ้องร้องหน่วยงานที่แอบเข้าไปทุบฝายได้
ของเก่า - ไม่มี
comment - ก็คงจะแอบสร้างก่อนเหมือนเดิม พอโดนจับได้ ค่อยทำประชาพิจารณ์ลวกๆ แบบขอไปที
หมวด 5
ของใหม่ - นโยบายพื้นฐานมีผลผูกพันต่อรัฐบาลด้วย
ของเก่า - ไม่มีผลบังคับรัฐบาลเลย รัฐบาลจะทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ ตามใจ
comment - ไม่น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ปฏิบัติเช้าชามเย็นชามแบบเดิมๆ
มาตรา 84 (8)
ของใหม่ - รัฐต้องส่งเสริมการรวมกลุ่มของเกษตรกรในรูปสภาเกษตรกร ใช้วางแผน รักษาผลประโยชน์
ของเก่า - ไม่มี
comment - นโยบายแย่งชิงคะแนนเสียงจากกลุ่มเกษตรกรในภาคเหนือและอีสานซึ่งเป็นฐานของทักกี้
เกือบทั้งหมดของ ชุดที่ 1 เป็นมาตราที่ต้องรอ พรบ. หรือกฎหมายลูกออกมารองรับรองการปฏิบัติอีกทีอยู่ดี
ส่วนชุดที่ 2 ใน Entry นี้ เป็นมาตราที่มีผลบังคับใช้ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง (เมื่อไร ?) ในครั้งนี้เลย
มองในแง่หนึ่ง มาตราในชุดที่ 2 นี้เป็นกลุ่มที่สำคัญมาก เพราะมีผลต่อการคัดนักการเมืองเข้าสภาโดยตรง
มองอีกแง่หนึ่ง มาตราในชุดที่ 2 นี้มีผลต่อประชาชนน้อย เพราะเมื่อเข้าสภาไปแล้วก็หาประโยชน์สุดเหวี่ยง
ประเด็นสำคัญคือ รัฐธรรมนูญ '50 มีกลไกเอื้อให้ประชาชนเบรกนักการเมืองอย่าให้กินมูมมากนัก หรือไม่
ชุดที่ 2 มาตราเกี่ยวกับสิทธิทางการเมือง
มาตรา 93 - 94
ของใหม่ - ระบบการเลือกตั้ง สส. แบบแบ่งเขต ใช้จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้งแต่ละเขตมี สส. ไม่เกิน 3 คน รวมทั้งสิ้น 400 คน
ของเก่า - ระบบการเลือกตั้ง สส. แบบแบ่งเขต ใช้พื้นที่เป็นเขตเลือกตั้งแต่ละพื้นที่มี สส. ได้ 1 คน
comment - เขตใหญ่ขึ้น ซื้อเสียงได้ยากขึ้น ถ้า สส. เป็นที่รักของคนในจังหวัดจริงๆ ก็จะไม่มีปัญหา แต่ซื้อเสียงยากขึ้น ก็ไม่ได้แปลว่าซื้อไม่ได้นะครับ คนจะโกง ย่อมหาวิธีการโกงวันยังค่ำ
มาตรา 95 - 98
ของใหม่ - ระบบการเลือกตั้ง สส. แบบสัดส่วน แบ่งออกเป็น 8 กลุ่มจังหวัด กลุ่มจังหวัดละ 10 คน
ของเก่า - ระบบบัญชื่อรายชื่อยกประเทศ 100 คน
comment - ป้องกันพรรคการเมืองใหญ่ผูกขาด คะแนนเสียงของประชาชนจะได้ไม่กระจุกใน กทม. แม้จะมีช่องซิกแซกโดยย้ายสำมะโนครัวไปต่างจังหวัด แต่คงไม่ทันการเลือกตั้งในครั้งนี้
มาตรา 95 - 98
ของใหม่ - สส. แบบสัดส่วน ไม่มีเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำ
ของเก่า - ต้องได้คะแนนเสียงอย่างน้อยร้อยละ 5 ถึงจะมี สส. แบบบัญชีรายชื่อเข้าสภาได้
comment - พรรคเล็กๆ ที่ไม่ค่อยได้คะแนนเสียง มีโอกาสเข้าสภามากขึ้น พรรคใหญ่ผูกขาดยากขึ้น พรรคใหญ่เปลืองงบในการฮุบมากขึ้น แต่ ผู้สมัครฟองสบู่ก็ถือโอกาสโก่งค่าตัวได้เช่นกัน
มาตรา 101
ของใหม่ - ผู้สมัคร สส. ไม่จำเป็นต้องมีวุฒิปริญญาตรี
ของเก่า - ผู้สมัคร สส. ต้องมีวุฒิปริญญาตรีเป็นอย่างน้อย
comment - จุดประสงค์เพื่อหาคนดี มีความชำนาญนอกระบบ เพราะคนฉลาดไม่ได้แปลว่าจะไม่โกง แต่ทางปฏิบัติ เราคงได้ สส. โกงกินเหมือนเดิม แถมโกงกินแบบด้อยปัญญาอีกต่างหาก
มาตรา 101 (3)
ของใหม่ - ลดระยะเวลาในการสังกัดพรรค กรณียุบสภา เหลือ 30 วัน
ของเก่า - ผู้ลงสมัครเลือกตั้ง สส. ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วัน จนถึงวันเลือกตั้ง
comment - สส. มีทางเลือกในการตัดสินใจเลือกพรรคมากขึ้น ไม่ตกอยู่ภายใต้สัญญาทาสพรรคใหญ่ อย่างไรก็ตาม ข้อนี้เป็นปัญหาเรื่องผลประโยชน์ของ สส. มากกว่าปัญหาของประชาชน
มาตรา 102 (เป็นมาตราที่เดิมพิมพ์คำขยายผิดครับ)
ของใหม่ - คุณสมบัติต้องห้ามของผู้สมัคร สส. บางประการ ผู้เป็น สส. ได้ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
..................1) ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
..................2) ไม่เคยต้องคำพิพากษาจำคุก โดยพ้นโทษมายังไม่เกิน 5 ปี
........................ยกเว้นความผิดโดยประมาท หรือลหุโทษ
..................3) ไม่เป็น หรือเคยเป็น สว. แต่ยังพ้นตำแหน่งมาไม่เกิน 2 ปี
..................4) ไม่เคยถูก สว. ถอดถอนจากตำแหน่ง
ของเก่า - คุณสมบัติต้องห้ามของผู้สมัคร สส. บางประการ ผู้เป็น สส. ได้ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
..................1) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
..................2) ไม่เคยต้องคำพิพากษาจำคุกตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป โดยพ้นโทษมายังไม่เกิน 5 ปี
........................ยกเว้นความผิดโดยประมาท หรือลหุโทษ
..................3) ไม่เป็น สว.
..................4) ไม่เคยถูก สว. ถอดถอนจากตำแหน่ง และยังไม่พ้น 5 ปี
comment - เทียบเท่าคำสั่งประหารชีวิต สส. ที่มีประวัติไม่ดีและไม่รู้จักเข็ดหลาบ ไม่ให้ได้ผุดได้เกิด ขอให้กล้าๆ แบบเมืองจีนตอนนี้ ที่ระดับเจ้ากรมเจ้ากระทรวงบิ๊กๆ ถูกเชือดเป็นใบไม้ร่วง
มาตรา 104
ของใหม่ - ระหว่างอายุของสภา จะควบรวมพรรคการเมืองไม่ได้
ของเก่า - ไม่มี
comment - ป้องกันการควบรวมพรรคการเมือง เพื่อยึดสภาเบ็ดเสร็จตามช่องโหว่ในรัฐธรรมนูญเก่า
มาตรา 106 และ 119
ของใหม่ - สส. สว. พ้นจากตำแหน่งเมื่อต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก แม้กำลังรอการลงโทษก็ตาม
ของเก่า - สส. สว. พ้นจากตำแหน่งเมื่อต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
comment - ในเมื่อผลการตัดสินจากศาลถึงที่สุดแล้ว ก็ไม่ต้องลอยหน้าลอยตาเป็น สส. สว. อีกต่อไป
มาตรา 108
ของใหม่ - ระยะเวลาในการจัดการเลือกตั้งใหม่ กรณียุบสภา "ไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน"
ของเก่า - กำหนดไว้เพียง ให้จัดการเลือกตั้งใหม่ "ภายใน 60 วัน"
comment - เพื่อเปิดช่องทางให้ สส. ย้ายพรรคการเมืองได้ ตามเงื่อนไข 30 วันของรัฐธรรมนูญ '50 ระบบเดิมเห็นได้ชัดเจนว่า ต่อให้ทักกี้ยุบสภาสิบครั้งซ้อน ลูกพรรคก็หนีไปไหนไม่ได้เลย
มาตรา 111
ของใหม่ - สว. มาจากการเลือกตั้งจังหวัดละ 1 คน รวม 76 คน มาจากการแต่งตั้ง 74 คน รวม 150 คน
ของเก่า - สว. มาจากการเลือกตั้ง 200 คน
comment - ลดจำนวน สว. ไม่ให้เทอะทะ การแบ่งที่มาอย่างละครึ่ง ทำให้ สว. จัดกลุ่มฮั้วกันลำบากขึ้น ให้ศาลเลือก สว. คงไม่เลวร้ายไปกว่า ให้ฐานเสียง สส. เลือกล็อค สว. ตามระบบเก่าหรอก
มาตรา 115
ของใหม่ - เพิ่มคุณสมบัติต้องห้ามของ สว. ให้เข้มข้นขึ้น
..................1) ไม่เป็นบุพการี คู่สมรส บุตร ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือ สส.
..................2) ไม่เป็นสมาชิกหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง หรือพ้นจากตำแหน่งไม่เกิน 5 ปี
..................3) ไม่เป็น สส. หรือพ้นจากตำแหน่งไม่เกิน 5 ปี
ของเก่า - ไม่มี
comment - เป็นมาตราที่กำจัด "สภาผัว-เมีย" ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะนึกออกแล้ว เพื่อให้ได้คนที่ไม่สังกัดฝ่ายใดเป็น สว. แต่อาจจะเกิด "สภาหย่าแล้ว" ขึ้นมาแทนก็ได้ :P
มาตรา 122
ของใหม่ - ยืนยันให้ สส. สว. ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่อยู่ภายใต้การครอบงำ
ของเก่า - ไม่มี
comment - ถ้าหากการคัดเลือก สส. สว. เป็นไปตามมาตรา 115 อย่างจริงจัง ก็พอมีความหวังอยู่บ้าง
มาตรา 142 และ 163
ของใหม่ - ลดจำนวนการเข้าชื่อของประชาชนเพื่อเสนอร่างกฎหมาย เหลือ 10,000 ชื่อ
ของเก่า - 50,000 รายชื่อ
comment - เป็นสิ่งที่ดีสำหรับประชาชน และหวังว่าประชาชนคงไม่เสนออะไรติ๊งต๊องเป็นกฎหมายล่ะ
มาตรา 158
ของใหม่ - สส. จำนวน 1 ใน 5 ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีได้
ของเก่า - สส. จำนวน 2 ใน 5 ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีได้
comment - แก้ไขปัญหายุคทักกี้ ซึ่งมีเสียงในสภามากกว่า 3 ใน 5 จนระบบการตรวจสอบเป็นง่อย
มาตรา 159
ของใหม่ - สส. จำนวน 1 ใน 6 ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีได้ แม้รัฐมนตรีคนดังกล่าวจะพ้นจากตำแหน่ง เปลี่ยนไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงอื่นๆ ก็ตาม
ของเก่า - สส. จำนวน 1 ใน 5 ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีได้ แต่ถ้ารัฐมนตรีคนดังกล่าวพ้นจากตำแหน่ง จะไม่สามารถอภิปรายได้
comment - เงื่อนไขใหม่เข้าท่ามาก เพราะเงื่อนไขเก่า เปลี่ยน รมต. บ่อยเหมือนกับเล่นเก้าอี้ดนตรี ผลัดกันเข้าไปกินจนอิ่มหนำถ้วนหน้า นโยบายไม่สานต่อเพราะเจ้ากระทรวงอายุสั้นสุดๆ เงื่อนไขใหม่เป็นการป้องปราม รมต. ชุดต่อไปว่าจะเข้าไปกินแล้วชิ่งแบบสมัยก่อนไม่ได้ .เพราะฝ่ายค้านหรือประชาชนสามารถตามจิกเล่นงานเจ้ากระทรวงที่มูมมามย้อนหลังได้
มาตรา 160
ของใหม่ - เมื่อ ครม. บริหารงานเกิน 2 ปี ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ หรือ รมต. ได้ทันที
ของเก่า - ไม่มี
comment - ป้องกันเผื่ออนาคตมีใครยึดเสียงในสภาได้มากกว่า 4 ใน 5 รถถังจะได้ไม่ต้องออกมาอีก
มาตรา 164 และ 271
ของใหม่ - ลดจำนวนรายชื่อเพื่อถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเหลือ 20,000 ชื่อ
ของเก่า - 50,000 รายชื่อ
comment - แม้จะเป็นดาบสองคม แต่ก็น่าจะทำให้นักการเมืองที่มีชนักติดหลัง สงบเสงี่ยมขึ้นอีกนิด
มาตรา 167 วรรค 2
ของใหม่ - กำหนดให้การทำงบกลางต้องแสดงเหตุผลและความจำเป็นด้วย
ของเก่า - ไม่มี
comment - มันเป็นเรื่องพื้นๆ ที่ควรจะทำมาตั้งนานแล้วครับ
มาตรา 170
ของใหม่ - เงินรายได้ใดๆ ที่ไม่ต้องนำส่งเข้าคลัง ต้องรายงานต่อ ครม. และรายงานต่อสภาฯ ทุกสิ้นปี
ของเก่า - ไม่มี
comment - เหมือนจะโปร่งใสขึ้น...นิดนึง...
มาตรา 171
ของใหม่ - นายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกิน 8 ปี (หรือ 2 สมัยเต็ม)
ของเก่า - ไม่มี
comment - ป้องกันการผูกขาดอำนาจ ประกอบกับคนไทยมีนิสัยเบื่อง่าย ดังนั้น ต่อให้เทวดามาปกครอง 8 ปี ก็มากพอแล้วครับ
มาตรา 212
ของใหม่ - ประชาชนมีสิทธิฟ้องร้องศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรง ในกรณีที่กฎหมายกระทบสิทธิเสรีภาพ
ของเก่า - ไม่มี
comment - เมื่อดูจากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงว่าคนไท้ไทเข้าใจคำว่า สิทธิเสรีภาพ แบบผิดๆ ก็เลยไม่แน่ใจว่าจะให้มันเป็นมาตราที่ดี ดีหรือเปล่า
มาตรา 219
ของใหม่ - ให้ศาลยุติธรรมพิจารณาตัดสินดีเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
ของเก่า - ไม่มี
comment - มาตรานี้ตั้งขึ้นเพื่อถ่วงดุลอำนาจกับ กกต. เดิมซึ่งมีอำนาจล้นฟ้าในกระบวนการเลือกตั้ง โดยให้ กกต. มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง และให้ ศาล มีอำนาจในการออกใบแดง ใบเหลือง
มาตรา 244 (3) และวรรคท้าย
ของใหม่ - ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีอำนาจดำเนินการในเรื่องจริยธรรมของ นักการเมืองและข้าราชการ รวมทั้งพิจารณาและสอบสวน โดยไม่ต้องมีการร้องเรียนก็ได้ ถ้ามีผลกระทบต่อประชาชน
ของเก่า - ไม่มี
comment - ถ้า ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซื่อสัตย์สุจริต เป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดจริงๆ ก็เป็นมาตราที่ดี
มาตรา 250 (3) และ (5)
ของใหม่ - ปปช. มีอำนาจและหน้าที่ในการกำกับดูแลคุณธรรมและจริยธรรมของ นักการเมือง รวมทั้งพิจารณาและสอบสวน โดยไม่ต้องมีการร้องเรียนก็ได้
ของเก่า - ไม่มี
comment - ถ้า ปปช. ซื่อสัตย์สุจริต เป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดจริงๆ ก็เป็นมาตราที่ดี
มาตรา 255
ของใหม่ - องค์กรอัยการ เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
ของเก่า - ไม่มี
comment - ถ้าไปถามเหล่าอัยการก็คงได้รับคำตอบว่าดีล่ะมั้ง
มาตรา 257
ของใหม่ - คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ มีอำนาจในการฟ้องศาลต่างๆ แทนประชาชนที่ถูกละเมิดได้
ของเก่า - คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ มีอำนาจในการตรวจสอบและให้คำแนะนำเท่านั้น
comment - หลักการดี แต่ ถ้าไปเจอนักสิทธิมนุษยชนสนามหลวงเข้า ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจจะไม่ปลื้ม
มาตรา 259 วรรค 3
ของใหม่ - บัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนักการเมืองนั้น รวมถึงทรัพย์สินที่คนอื่นครอบครองดูแลด้วย
ของเก่า - ไม่มี
comment - เพื่อป้องกันการถ่ายโอนทรัพย์ให้คนขับรถ คนสวน บริษัทนายหน้า แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
มาตรา 269 วรรคท้าย
ของใหม่ - ห้าม นายกฯ และ รมต. รวมทั้งลูกเมียที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไปเป็นหุ้นส่วนหรือถือหุ้นด้วย
ของเก่า - ห้ามเฉพาะ นายกฯ และ รมต. เท่านั้น
comment - เพื่อป้องกันเหตุการณ์ "พ่อแม่รังแกฉัน" และป้องกันการเกิดข้อครหา "ผู้ใหญ่รังแกเด็ก" จากกรณีทักกี้โอนหุ้นให้ลูกที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจนต้องตกกระไดพลอยโจน ซวยไปด้วย
มาตรา 276
ของใหม่ - กำหนดให้มี ผู้ไต่สวนอิสระ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากการประชุมของศาลฎีกา
ของเก่า - ไม่มี
comment - เหมือนจะดี แต่เกิดความรู้สึกว่าเริ่มก้าวก่ายอำนาจเยอะเกินไปหรือเปล่า
หมวด 13
ของใหม่ - กำหนดเรื่องจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและข้าราชการ
ของเก่า - ไม่มี
comment - เรื่องนามธรรมเป็นอะไรที่กำหนดลำบาก ดีของคนหนึ่ง อาจไม่ดีของคนหนึ่ง
มาตรา 287
ของใหม่ - กำหนดเพิ่ม ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของตนเอง
ของเก่า - ไม่มี
comment - มันก็เป็นองค์การปกครองสำหรับเครือญาติส่วนท้องถิ่นอยู่ดี
มาตรา 291
ของใหม่ - ให้สิทธิประชาชน 50,000 รายชื่อ เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้
ของเก่า - ประชาชนไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้
comment - ถึงแม้ผมจะไม่ไว้ใจคนไท้ไท แต่ก็ต้องยอมรับว่ามาตราที่ดี
มาตรา 303
ของใหม่ - กำหนดให้ตรากฎหมายลูกเสร็จใน 1 ปี หรือ 2 ปีในบางกรณี
ของเก่า - ไม่มี
comment - เป็นมาตราที่ดี เพราะไม่เช่นนั้น กฎหมายบางอย่าง จะถูก สส. เตะถ่วงจนยุบสภาโน่นเลย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)